16/3/2553
ผู้แทนองค์การยูเนสโกจากโมนาโก กล่าวในที่ร่วมประชุมอนุสัญญาว่าด้วยการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าระหว่างประเทศ หรือ ไซเตส ในกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ว่าญี่ปุ่นจะต้องเลิกการบริโภคปลาทูน่าครีบน้ำเงิน เพื่อป้องกันไม่ให้ปลาชนิดนี้สูญพันธุ์
ที่ประชุมของ 175 ประเทศระหว่างวันที่ 13-25 มีนาคม มีกำหนดจะโหวตเกี่ยวกับข้อเสนอประมาณ 40 ข้อ สำหรับการกำหนดกฎระเบียบการค้าและสัตว์ป่าและพืชป่าต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงฉลาม ปะการัง ช้าง และหมีขั้วโลก และสมาชิกไซเตส มีกำหนดจะโหวตรับรองการห้ามการค้าระหว่างประเทศปลาทูน่าครีบน้ำเงินมหาสมุทรแอตแลนติก อาหารจานเด็ดอย่างหนึ่งในญี่ปุ่น
ข้อเสนอให้ห้ามการค้าระหว่างประเทศปลาทูน่านี้ มาจากโมนาโก ที่มีสหรัฐ และอียู.สนับสนุน ข้อเสนอนี้จะต้องได้เสียงสนับสนุนจากเสียงส่วนใหญ่ 2 ใน 3 ของที่ประชุม จึงจะมีผลบังคับใช้
นายปาตริก ฟัน คลาเวิร์น ผู้แทนยูเนสโก จากโมนาโก เป็นคนออกมาเรียกร้องให้ชาวญี่ปุ่นเลิกรับประทานเนื้อปลาทูน่าครีบน้ำเงินแอตแลนติกสัก 2 ถึง 3 ปี เพื่อให้ปริมาณปลาชนิดนี้ฟื้นตัว
ตามข้อมูลของไซเตส ปริมาณปลาชนิดนี้ลดลงกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่ปี 2513 ญี่ปุ่นนำเข้าประมาณร้อยละ 80 ของปริมาณปลาที่จับได้ ปลาตัวหนึ่งมีน้ำหนักถึง 650 กิโลกรัม และมีราคากว่า 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.3 ล้านบาท ซึ่งอียู. สหรัฐฯ และเลขาธิการไซเตส ต่างสนับสนุนคำสั่งห้ามการค้าระหว่างประเทศปลาทูน่าครีบน้ำเงินแอตแลนติกที่พบในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และอ่าวเม็กซิโก ทูน่าบางส่วนจะว่ายตัดข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น