โดย http://chantrawong.blogspot.com/2010/08/blog-post_17.html
วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553
อีกไม่นานนัก หนูแก่ๆ หลายตัวก็จะเกษียณไป หนูหัวหน้าตัวใหม่กำลังจะขึ้นมาแทน และก็ยังมีหนูอีกหลายตัวกำลังวิ่งแข่งขันกันอยู่ภายในสนาม....
วันนี้..ผมคิดถึงหนังสือเล่มหนึ่งที่เคยอ่าน มีอยู่ตอนหนึ่งเขียนเรื่อง "สนามแข่งหนู" ไว้ เลยนำมาคิดเปรียบเทียบกับชีวิตในสังคมเราทุกวันนี้....โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...ชีวิตของข้าราชการอย่างผม...
วันๆ เรานั่งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ บนโต๊ะข้างหน้ามีหนังสือกองโตที่รอให้เซ็นต์ โถ..นึกว่างานเยอะ แต่แท้ที่จริงแล้วหนังสือกองโตเหล่านั้น เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง และการดำรงสภาพของหน่วยตัวเองเสียส่วนใหญ่..แทบไม่มีเรื่องราวอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเลย....
ผมเคยหยิบกระดาษ A4 เปล่าๆ ขึ้นมาหนึ่งแผ่น ตั้งใจจะเขียนว่า วันนี้ ข้าราชการอย่างผม ได้ทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมบ้าง...เชื่อไหมว่า...ผมไม่รู้จะเขียนอะไร.... (อันนี้ไม่ได้หมายถึงข้าราชการทุกคนนะครับ หมายถึงตัวของผมเอง)
ผมจินตนาการภาพของสนามแข่งหนู ที่กำลังมีผู้นั่งชมและเชียร์อยู่รอบๆ พวกหนูทั้งหลาย ก็กำลังวิ่งแข่งขันกันอยู่ภายในลู่ที่จัดเตรียมไว้ให้ แรกๆ เมื่อเริ่มปล่อยตัวจากจุดสตาร์ท หนูทุกตัวต่างสดชื่น ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปยังเส้นชัย เพื่อจะได้เป็นผู้ชนะ...
วิ่งไปสักพักลู่เริ่มแคบลงเรื่อยๆ หนูบางตัวหมดแรงและถูกหนูกันเองกัดจนแผลเหวอะหวะไปหมด หนูตัวที่แข็งแรงและรู้หลบหลีก ก็ยังวิ่งไปข้างหน้าเรื่อยๆ....
มีหนูบางตัวรู้สึกว่าตัวเองมาแข่งขันกันทำไมในลู่เล็กๆ เหล่านี้...ทั้งๆ ที่ข้างหน้าก็รู้ว่ามันเป็นอะไร...จึงตัดสินใจกระโดดออกจากสนามแข่งหนู ทันที....หนูตัวนั้นจึงรู้ว่า....โลกนอกสนามแข่งนี้...มันช่างกว้างใหญ่เสียจริงๆ มีเรื่องราวชวนให้เรียนรู้อีกมากมาย....
หนูที่เหลือส่วนใหญ่ก็ยังวิ่งแข่งขันกันไปยังเส้นชัยเรื่อยๆ...เพื่อจะได้เป็นผู้ชนะ....ทั้งๆ ที่รู้ว่าผู้ชนะต้องมีตัวเดียว.... หนูเริ่มใช้ปากกัดตัวข้างหน้า เท้าถีบตัวข้างหลัง เบียดเพื่อนหนูที่วิ่งอยู่ข้างๆ ให้ตกลู่ไป...หนูบางตัวสู้ไม่ไหว ก็ย้ายไปแข่งขันในสนามอื่น...
กว่าจะถึงเส้นชัย...ได้เป็นผู้ชนะก็สะบักสบอม เสียพวกพ้องเพื่อนหนูที่วิ่งแข่งขันร่วมกันไปหลายตัว...หลงดีใจอยู่พักหนึ่ง..ว่าตนเองเป็นผู้ชนะ...หันกลับมาดูอีกที..เพิ่งรู้ว่าอีก 2-3 ปีข้างหน้า ข้าก็จะเป็นหนูแก่ๆ ที่จะเกษียณแล้วเหรอ...นึกในใจว่า...น่าเสียดายเวลาที่เอาแต่วิ่งแข่งขันกันมาตลอดอายุราชการ....
หนูที่แข่งขันกันในสนามนั้น...แทบไม่รู้เลยว่าความสุขระหว่างทางนั้นเป็นอย่างไร....
ผมจำคติของคุณตรง ตันติเวชกุล ที่เขียนไว้ในบทความหนึ่งแต่จำไม่ได้ว่าอะไร คุณตรงมีคติว่า
"ผมยืนอยู่บนเส้นทางที่แตกต่างจากคนอื่น โดยไม่สนใจว่าปลายทางจะเป็นอะไร แต่ระหว่างทางต้องมีความสุข"
ผมมองเห็นวิธีการที่หนูในสนามแต่ละตัวแข่งขันกัน...มันช่างสกปรกสิ้นดี...ผมรู้สึกว่าผมทำอย่างหนูพวกนั้นไม่ได้ ผมไม่สามารถเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนพฤติกรรมและเปลี่ยนความรู้สึกของตนเองได้ ผมจึงไม่อยากที่จะเป็นผู้ชนะในสนามแข่งขันนั้น...เพราะความสุขระหว่างทางของผมจะหายไปหมด เพียงเพื่อจะได้เป็นผู้ชนะและชื่นชมความเป็นผู้ชนะอยู่เพียงปีสองปี...
ผมเบื่อสนามแข่งหนู...และผมต้องรู้ตนเองให้ได้ว่า...ความสุขที่ผมต้องการนั้น แท้จริงคืออะไร...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น