นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ประธานกรรมการบริหารสถาบันอนาคตไทยศึกษา เปิดเผยว่า สถาบันได้จัดทำซีรีส์งานศึกษาเรื่องความเหลื่อมล้ำ เรื่อง "8 ข้อเท็จจริง ความเหลื่อมล้ำในไทย" ซึ่งมีข้อค้นพบที่น่าสนใจดังนี้
1.ปัญหาความเหลื่อมล้ำไม่ได้ดีขึ้นเลย
จากเมื่อสามทศวรรษที่ผ่านมา โดย 25 ปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของไทยเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่า แต่รายได้ส่วนที่ตกถึงครอบครัวไทยเพิ่มขึ้นเพียง 3 เท่า
โดยเมื่อปี 2529 ครอบครัวที่จนสุด 10% เคยมีรายได้เฉลี่ย 1,429 บาท/เดือน
ครอบครัวรวยสุด 10% มีรายได้เฉลี่ย 28,808 บาท/เดือน ผ่านมา 25 ปี
รายได้ครอบครัวรวยที่สุดโตขึ้น 3 เท่า เพิ่มเป็น 90,048 บาท/เดือน
แต่ครอบครัวจนที่สุดเพิ่มขึ้นไม่ถึง 3 เท่า มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 4,266 บาท
2.กลุ่มใหญ่ที่สุดในครอบครัวคนจนคือ ครอบครัวที่มีคนชราเป็นหัวหน้าครอบครัว
2.กลุ่มใหญ่ที่สุดในครอบครัวคนจนคือ ครอบครัวที่มีคนชราเป็นหัวหน้าครอบครัว
3.เกือบครึ่งของครอบครัวไทยมีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท/เดือน ขณะที่รายได้ครอบครัวเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ 23,000 บาท/เดือน
4.ความเหลื่อมล้ำที่แท้จริงนั้นยิ่งแย่กว่าที่รายงานทั่วไปอย่างน้อย 25% โดยข้อมูลที่ใช้กันทั่วไปมาจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ เมื่อนำรายได้ครัวเรือนมารวมกันจะอยู่ที่ 6.4 ล้านล้านบาท แต่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พบว่า รายได้ครัวเรือนไทยสูงถึง 7.3 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้ การสำรวจไม่ได้ให้ภาพที่ครบถ้วนของฐานะการเงินครอบครัวคนรวย เห็นได้จากข้อมูลนิตยสารฟอร์บส์ รวบรวมมูลค่าทรัพย์สินของ 50 มหาเศรษฐีไทย สูงถึง 52,000 ล้านบาท รวยกว่าครอบครัวรวยที่สุดที่สำรวจมาถึง 250 เท่า
นอกจากนี้ การสำรวจไม่ได้ให้ภาพที่ครบถ้วนของฐานะการเงินครอบครัวคนรวย เห็นได้จากข้อมูลนิตยสารฟอร์บส์ รวบรวมมูลค่าทรัพย์สินของ 50 มหาเศรษฐีไทย สูงถึง 52,000 ล้านบาท รวยกว่าครอบครัวรวยที่สุดที่สำรวจมาถึง 250 เท่า
ขณะที่วารสารการเงินธนาคารระบุผู้ได้รับเงินปันผลหุ้นมากสุด 50 อันดับแรก เฉลี่ย 190 ล้านบาท/ปี ซึ่งมากกว่ารายได้รวมจากทุกๆ แหล่งของครอบครัวรวยที่สุดถึง 2 เท่า ทำให้ความแตกต่างระหว่างกลุ่มจนที่สุด 20% และรวยที่สุด 20% เพิ่มขึ้นจาก 11 เท่าเป็น 14 เท่าหรือกว่า 25% และด้วยตัวเลขใหม่นี้จะทำให้อันดับความเหลื่อมล้ำของไทยเมื่อเทียบกับ 157 ประเทศยิ่งแย่ลง คือจากเดิมอยู่ที่อันดับ 121 จะตกไปอยู่ลำดับ 135
5.ความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งไทยอยู่อันดับท้ายๆ ของโลก คือ อันดับ 162 จาก 174 ประเทศ
5.ความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งไทยอยู่อันดับท้ายๆ ของโลก คือ อันดับ 162 จาก 174 ประเทศ
6.ทรัพย์สินเฉลี่ยของครอบครัวส.ส. รวยกว่า 99.999% ของครอบครัวไทย โดยทรัพย์สินรวมของส.ส. 500 ครอบครัวมารวมกันเท่ากับ 40,000 ล้านบาท มากพอๆ กับทรัพย์สินของ 2 ล้านครอบครัวรวมกัน ขณะที่มูลค่าทรัพย์สินของนายกรัฐมนตรีไทยสูงกว่าคนที่มีทรัพย์สินสุทธิอยู่ กึ่งกลางถึง 9,000 เท่า
7.นอกจากนี้มีความเหลื่อมล้ำด้านอื่นๆ
8.ความเหลื่อมล้ำที่สำคัญที่ควรแก้ คือความเหลื่อมล้ำด้านโอกาส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น