เว็บไซต์ต่างชาติเผย5สาเหตุที่ภาษาอังกฤษไทยรั้งท้ายอาเซียน!!!

18 มิ.ย. 2557
เมื่อ 19 มิ.ย.2557

1การศึกษาที่เน้นการท่องจำ
2 ไม่มีการสอนแบบคิดวิเคราะห์
3 บุคลากรไทยไม่ค่อยเก่งอังกฤษมากนัก
4 บุคลากรต่างชาติไม่ค่อยได้มาตราฐาน
5กระทรวงศึกษาธิการ

ผมขอเสนอวิธีแก้

ให้อาจารย์ผู้สอนทำเรื่องเดียวคือ สอนภาษาอังกฤษอย่างเดียว ไม่ต้องไปทำเรื่องอื่น งานเอกสาร งานธุรการให้เจ้าหน้าที่ทำไป

หาวิธีการสอนที่มีประสิทธิภาพที่สุดมาสอนเด็ก

เด็กไทยก็จะเก่งภาษาอังกฤษเอง
Read more ...

หนุ่มฝรั่งเศส 'เช็คน้ำใจ' เพื่อนร่วมชาติ

18 มิ.ย. 2557
โดยวอยซ์ทีวี เมื่อ 26 พ.ค.2557

หนุ่มปารีสดอดถ่ายคลิป แสร้งเป็นลมล้มฟุบกลางถนน ครั้งแรกแต่งชุดคนโซ อีกครั้งใส่สูทหรู ทายใจผู้คนกุลีกุจอช่วยใคร?

ผู้ใช้ซึ่งระบุชื่อว่า NorniTube เผยแพร่คลิปนี้เมื่อสองสัปดาห์ก่อน มีคนเข้าชมแล้วเกือบ 7 ล้านครั้ง

เขาต้องการทดลองดูว่า ผู้คนบนท้องถนนกรุงปารีส มีปฏิกิริยาแตกต่างกันอย่างไร เมื่อเห็น "คนโซ" กับ "นักธุรกิจ" เป็นลมล้มฟุบบนบาทวิถี

การณ์เป็นไปตามคาด ไม่มีใครสนใจใยดีคนโซ ขณะที่ผู้คนปรี่เข้าช่วยนักธุรกิจ

เขาจบวีดีโอด้วยการชักชวนผู้ชมแต่ละคน ร่วมกันเปลี่ยนแปลงโลก ให้เป็นอย่างที่เราอยากเห็น 
Read more ...

17 สิ่งที่ยอดคนเขาทำกันทุกวัน

15 มิ.ย. 2557
 
ที่มา: http://www.nuttaputch.com/17-things-great-people-do-every-day/

คนที่ประสบความสำเร็จ หรือกลายเป็นผู้นำคนชั้นยอดได้นั้น ไม่ใช่มีแค่พรสวรรค์แต่อย่างเดียว แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้เขาไปถึงจุดหมายหรือประสบความสำเร็จต่างจากคนทั่วๆ ไปคือวิถีที่เขาใช้ชีวิตหรือพฤติกรรมต่างๆ ที่เขาทำต่างออกไป ซึ่งก็มีคนพยายามไขเคล็ดลับเหล่านี้ออกมาอยู่เรื่อยๆ

วันก่อนผมไปเจอบล็อกของ Inc ที่พูดถึงเรื่องนี้อยู่เหมือนกันโดยพุ่งเป้าไปที่พฤติกรรมที่คนเหล่านี้มักทำอยู่ในทุกๆ วัน ซึ่งเนื้อหาก็ถือว่าน่าสนใจ ได้ใจความแถมกระชับด้วย เลยขออนุญาตเอามาแปลและเรียบเรียงเผยแพร่กันนะครับ ^^

1. สำรวจเป้าหมายระยะไกลของตัวเอง

สิ่งที่คนซึ่งจะประสบความสำเร็จมักมีอยู่ในใจเสมอคือจุดหมายปลายทางว่าจะพยายามมุ่งไปยังจุดไหน ถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณกำลังไปไหน มันก็เท่ากับคุณวิ่งวนไปโดยไม่มีวันที่จะถึงปลายทาง (เพราะคุณก็ไม่รู้ปลายทางคือจุดไหน) มันจึงค่อนข้างสำคัญที่คุณควรใช้เวลาสักเล็กน้อยในแต่ละวันสำรวจว่าคุณอยากไปถึงจุดไหนและตอนนี้คุณอยู่ระหว่างทางแค่ไหน แม้ว่าจุดหมายปลายทางอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงบ้างระหว่างทาง แต่มันก็เป็นเรื่องดีเพราะอย่างน้อยคุณก็รู้ตัวว่าคุณกำลังมุ่งหน้าไปทิศทางใด

2. วางแผนสิ่งที่จะทำแต่ละวัน

การใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดเกิดขึ้นจากการที่คุณวางแผนอย่างดีว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง เพราะมันทำให้คุณมองเห็นว่าคุณใช้เวลาในแต่ละวันได้อย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน เช่นเดียวกับที่การวางแผนจะทำให้คุณย้อนมองเห็นว่าสิ่งที่คุณทำแต่ละวันนั้นมันไปด้วยกันกับเป้าหมายที่คุณวางไว้หรือไม่ แม้ว่าในความเป็นจริงคุณอาจจะไม่ได้ทำตามแผน 100% อาจจะมีผิดแผนไปบ้าง แต่อย่างน้อยคุณก็รู้ตัวว่าแผนของคุณคืออะไร อะไรที่คุณต้องโฟกัส อะไรที่คุณควรลำดับความสำคัญเสียใหม่

3. รู้จักขอความช่วยเหลือ

ไม่มีใครเก่งชนิดไม่ต้องพึ่งพาใคร การขอความช่วยเหลือก็ไม่ใช่การแปลว่าคุณไม่มีความสามารถหรือไม่ได้ความ แต่มันคือการแสดงความเคารพความสามารถของผู้อื่นด้วยเช่นกัน การขอความช่วยเหลือคือการทำให้คุณเองก็มองเห็นคุณค่าของคนอื่นๆ ไปพร้อมๆ กัน อย่างไรก็ตาม คุณต้องไม่ลืมว่าการขอความช่วยเหลือนั้นควรจะทำอย่างสุภาพและให้เกียรติอีกฝ่ายด้วยนะครับ

4. เรียนรู้จาก “ครู” และฝึกเป็น “ครู” ให้กับคนอื่น

Mentorship เป็นสิ่งที่คนประสบความสำเร็จมีอยู่ในตัวทั้งในมุมของการมีครูคอยแนะนำและบทบาทของการเป็นคนแนะนำผู้อื่น พฤติกรรมของการเป็นครูนี้เองที่ทำให้คนได้ทบทวนและเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างมากขึ้น การได้คนแนะนำก็จะเป็นการเตือนสติตัวคุณเองและชี้ให้เห็นช่องว่างบางอย่างที่คณอาจจะมองข้ามไป ส่วนการสอนคนอื่นก็จะทำให้คุณได้ฝึกถ่ายทอดความคิดไปในตัวด้วย (การสอนคนให้ได้เนี่ยบางทีก็ยากเสียกว่าการเรียนให้รู้เรื่องอีกนะครับ)

 5. พักบ้างอะไรบ้าง

คนไม่ใช่เครื่องจักร แม้แต่ยอดคนอะไรก็ตามก็จะรู้ขีดจำกัดของตัวเองว่าพวกเขาทำงานได้ถึงขนาดไหน แม้ว่าลิมิตของพวกเขาอาจจะต่างจากคนอื่นบ้าง แต่สุดท้ายพวกเขาก็จะหาวิธีในการบริหารพลังของตัวเองไม่ให้อยู่ในระดับที่ต่ำเกินไป งานไม่สามารถทำเสร็จได้ในวันเดียว  บางครั้งคนเราก็ต้องหยุดพักบ้างอะไรบ้างเพื่อทบทวนและสำรวจสิ่งที่ได้ลงมือทำไปแล้ว

6. จดบันทึก

การจดบันทึกเป็นสิ่งที่คนเก่งๆ มักทำกันเพราะการบันทึกทำให้เขาได้ทบทวนเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตอยู่เสมอ และการทบทวนนั่นแหละคือการทำให้พวกเขาได้เรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วมากกว่าจะให้มันผ่านไปเฉยๆ

7. สร้างความมั่นใจให้ตัวเอง

ทุกๆ คนมักมีวันที่ต้องเผชิญหน้ากับความล้มเหลว ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ท้าทาย บ้างก็ต้องมีความกลัวเกิดขึ้น การสร้างความมั่นใจเป็นสิ่งสำคัญเพราะนั่นทำให้คุณมีใจที่สู้และเผชิญหน้ากับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้

8. ขอบคุณและชื่นชมสิ่งรอบตัวคุณ

อย่าลืมที่จะขอบคุณกับคนรอบตัวคุณ การขอบคุณและชื่นชมสิ่งดีๆ รอบตัวคุณจะทำให้คุณมองเห็นโลกรอบข้างในแง่บวกมากกว่าจะมองมันด้วยทัศนคติลบๆ การสร้างนิสัยที่จะขอบคุณคนอยู่เสมอๆ อย่างจริงใจไม่เพียงจะทำให้ตัวคุณรู้สึกดีแล้ว คนรอบข้างก็ยังจะรู้สึกดีกับคุณไปด้วย

9. ใส่ใจกับคนรอบข้าง

สิ่งที่คุณทำไปจะกลายเป็นประวัติที่คนอื่นจดจำ คำถามคือคุณจะอยากให้คนอื่นจดจำคุณแบบไหน ในแง่บวกหรือในแง่ลบ? ฉะนั้นแล้วมันจึงจำเป็นที่คุณจะใส่ใจกับคนรอบข้างของคุณในทุกๆ การกระทำ เพราะมันอาจจะเป็นความทรงจำที่พวกเขาจดจำคุณไปนานแสดงนาน

10. ออกกำลังกายบ้าง

ต่อให้คุณมีสมองที่เยี่ยมยอด แต่ถ้าคุณไม่มีแรง ไม่มีพลังที่จะสร้างสรรค์ผลงานมันก็อาจจะไม่ประโยชน์เท่าไรนัก คงจะดีถ้าคุณรู้จักบริหารร่างกายตัวเองให้สามารถทำงานได้อย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายในทุกๆ วันแม้จะเล็กน้อยก็เป็นวิธีที่ดีในการรักษาสุขภาพของคุณ

11. เลิกทำอะไรบางอย่างไปบ้าง

การสร้างไอเดียที่ยอดเยี่ยมอาจจะไม่ใช่เรื่องยากที่สุด เพราะเรื่องที่ยากกว่าคือการกำจัดไอเดียดีๆ อื่นๆ ออกไปจนเหลือไอเดียสำคัญเพียงไอเดียเดียวเพื่อที่คุณจะสามารถตั้งสมาธิอยู่กับมันได้ การตัดสินใจเลิกอะไรบางอย่างอาจจะเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจอยู่ไม่น้อย แต่มันก็เป็นสิ่งที่คนเก่งๆ หลายคนเลือกทำเพื่อทำให้พวกเขาสามารถจดจ่อกับเป้าหมายของเขาได้

12.ใส่ใจกับรายละเอียด

ไม่ใช่แค่สนใจกับไอเดียหลักๆ เท่านั้น แต่คนเก่งๆ มักจะมีการใส่ใจในรายละเอียดบางอย่างมากเป็นปรกติ (แต่ก็ไม่ใช่ถึงขั้นจู้จี้จุกจิกจนเกินไป) เพราะสิ่งเหล่านั้นจะเป็นส่วนสำคัญของไอเดียที่พวกเขากำลังทำอยู่นั่นเอง

13. หัวเราะบ้าง

อารมณ์ดีย่อมนำไปสู่ทัศนคติที่ดี การหัวเราะบ้างเป็นตัวช่วยเติมความสุขให้กับตัวคุณเองแม้แต่ในวันที่แย่ๆ ก็ตาม

14. นอน

นอนให้พอคือกุญแจสำคัญของการมีพลังที่คุณจะทำงาน การนอนที่เพียงพอจะทำให้คุณมีสมองที่ปลอดโปร่ง คิดอะไรลื่นไหล ต่างจากการที่คุณอดหลับอดนอนจนมีนตึ้บ

15. เรียนรู้ต่อไป

การเรียนไม่ใช่เรื่องที่จบในห้องเรียน ชีวิตคือการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา คนเก่งๆ ล้วนจะไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาตัวเอง แต่กลับหาความรู้เพิ่มให้ตัวเองอยู่เสมอ เพราะนั่นทำให้เขาไปถึงการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้อีกเรื่อยๆ

16. มองหาความสนใจใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ

ความคิดหลายๆ อย่างจำเป็นต้องอาศัยการเปิดกว้างทางความคิด ถ้าคุณยึดติดอยู่กับความสนใจเดิมๆ หรือวนๆ อยู่กับเรื่องเดิมๆ แล้ว คุณก็อาจจะมองไม่เห็นโอกาสอื่นๆ ที่อยู่ข้างนอกนั่น การเปิดโอกาสให้ตัวเองได้สนใจอะไรใหม่ๆ ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้คุณมีโอกาสค้นหาศักยภาพที่คุณยังไม่รู้ว่าตัวเองมีอีกด้วย

17. แชร์สิ่งที่เยี่ยมยอดอยู่เสมอ

คนเก่งๆ ไม่ใช่คนประเภทเก็บความรู้อยู่กับตัว แต่เขาคือคนประเภทที่ได้เจอเรื่องดีๆ มาและจะบอกต่อให้คนอื่นไป นั่นทำให้ความคิดของเขา ชื่อของเขา ถูกส่งต่อไปไม่รู้จบ
Read more ...

ชายวัย 43 ปี ติดค้างในสนามบิน ทำคลิปแก้เซ็ง โด่งดังทั่วโลก

13 มิ.ย. 2557
โดยช่อง 7 เมื่อ 13 มิ.ย.2557

เป็นกระแสฮือฮาไปทั่วโลก เมื่อนายริชาร์ต ดัน ชายวัย 43 ปี ต้องค้างคืนในสนามบิน เนื่องจากเครื่องบินดีเลย์ ทำให้เขาไม่รู้จะทำอะไรดี จึงเกิดไอเดียสร้างมิวสิควีดีโอที่สุดยอดและตลกขบขันโดยใช้เพลง All by Myself ของ Celine Dion เป็นเพลงประกอบ จนยอดวิวพุ่งถล่มทลาย

นายริชาร์ต ใช้เวลา 3ชั่วโมงในการถ่ายลิปซิงค์โดยถ่ายจาก iPhone ของเขา หาอะไรทำฆ่าเวลาแก้เบื่อ จนคลิปวีดิโอทำเอาคนดูติดอกติดใจ โด่งดังไปทั่วโลก 
Read more ...

การตักเตือนลูกน้องเมื่อทำผิดเล็กน้อย

7 มิ.ย. 2557
โดยสมคิดแฟนเพจ https://www.facebook.com/SomkidFanPage

สมัยผมเป็นผู้บริหารสนามบิน...อยู่ต่างประเทศ...
เจ้านายฝรั่ง...เดินมาชี้หน้าด่าผมว่า...
มึงเป็นผู้บริหารที่เฮงซวยมาก...
ผมตกใจ...แต่ก็หัวเราะ...แล้วก็สวนคำทันทีทันใดว่า...
มึงผิดแล้ว...นี่แสดงว่ามึงไม่รู้จักกู...
ทุกคนรู้ว่า...
กูคือผู้บริหารที่เก่งที่สุด...
ประสบความสำเร็จสูงที่สุด...
ในรุ่นเดียวกัน...ที่เข้ามาทำงานพร้อมกัน...

มันบอกว่า...
กูไม่รู้ว่า...มึงสำเร็จยิ่งใหญ่ขนาดไหน...
แต่ในสายตากู...มึงคือผู้บริหารที่เฮงซวยที่สุด...
เฮงซวยยังไง...? ไหนว่ามาซิ...
มึงเป็นผู้บริหาร...ที่ขาดวินัย...วินัยอ่อนมาก...

นี่ถ้าเป็นระเบียบในสนามรบ...
ทหารที่ขาดวินัย...เขาจะเอาไปยิงทิ้ง...
ขืนเสี่ยงใช้ทหารประเภทนี้...จะทำให้กองทัพเสียหาย...
และพ่ายแพ้ในสงครามได้...

ผมฟังแล้วตกใจ...
แสดงว่าคนที่ขาดวินัย...เฮงซวย...และไร้ค่ามาก...
ผมก็ถามต่อว่า...ผมขาดวินัยยังไง..?
มันบอกว่า...
นี่เป็นจุดอ่อนของผู้บริหารไทยทุกคน...
ที่มันมองเห็นคือ...เวลาที่ลูกน้องทำผิด...
ยืนดูเฉย...ไม่เรียกมาว่ากล่าวตักเตือน...
ผมบอกว่า...มันเป็นความผิดเล็กน้อย...หยุมหยิมเกินไป...
มันบอกว่า...วันนี้เป็นความผิดเล็กน้อย...
แต่พรุ่งนี้...มันจะใหญ่ขึ้น...
และถ้ายังไม่เตือน...
เดือนหน้ามันจะใหญ่ขึ้น 30 เท่า...

และถ้ายังไม่เตือน...
อีก 3 เดือน...มันจะใหญ่มาก...เป็น 100 เท่า...

จนทำให้หลายคนเดือดร้อน...รวมทั้งมึงด้วย...
และเมื่อถึงวันนั้น...มีคนไปเตือน...ไปลงโทษ...ไอ้คนทำผิด...
มันจะถามว่า...
กูทำผิดอะไร...
กูทำแบบนี้มา 3 เดือนแล้ว...ไม่เห็นมีใครว่าอะไร...
มึงเป็นใคร...มาเสือกอะไรเรื่องของกู...เจ้านายกูยังไม่ยุ่ง

แล้วหลังจากนั้น...ก็ไม่มีใครว่ากล่าวตักเตือนมันได้...
จนกว่าจะเกิดเหตุใหญ่โต...จนควบคุมไม่อยู่...
เดือดร้อนกันทั้งบริษัท...หายนะกันทั่วทั้งประเทศ...
ผมฟังแล้วยิ้มๆ...นึกเถียงในใจว่า...
เหตุการณ์แบบนี้...ไม่มีทางเกิดขึ้นกับกูหรอก...เพราะกูเก่ง...

หลังจากนั้นไม่นาน...ประมาณ 3 หรือ 4 เดือน...
ลูกน้องของผม...ขับรถ...ชนเครื่องบิน...
นำหายนะมาสู่ผม...และบริษัท...ชนิดที่รับมือไม่ทัน...
สาเหตุเป็นเพราะ...
ขาดวินัย...
เหมือนกับที่เจ้านายฝรั่ง...เคยด่าผมไว้...เปี๊ยบเลย...

เรื่องมีอยู่ว่า...
ทุกเช้าก่อนนำรถออกไปทำงานในสนามบิน...
มันต้องเช็คความพร้อมของรถ 25 รายการ...
ตาม Check list ที่เขาทำไว้...
แต่คนไทย...มันเก่งมาก... 25 ข้อ...เช็คเสร็จภายใน 1 นาที...
ทำเครื่องหมายถูก...ทั้ง 25 ข้อ...ภายใน 1 นาที...
โดยไม่ต้องดูรถ...แล้วเซ็นชื่อกำกับ...แสดงว่า...เช็คแล้ว...

ไม่ต้องเช็คหรอกเจ้านาย...เช็คทำไมทุกวัน...เมื่อวานก็เช็คแล้ว...
เมื่อคืนนี้...รอบกลางคืนก็เช็คแล้ว...รถไม่มีปัญหาหรอก...

ทำไมถึงต้องเช็คทุกวัน...มันบ่อยเกินความจำเป็น...
ผมก็พยักหน้าเห็นด้วย...

พอรถชนเครื่องบิน...ก็ทำการสอบสวน...
ปรากฏว่า...รถคันนี้...ไม่ได้เช็คสภาพนานกว่า 6 เดือนแล้ว...
แต่มันมีบันทึกว่า...เช็ควันละ 2 ครั้งทุกวัน...ตลอด 6 เดือนเต็ม...
เพราะมันใช้วิธีเช็คแบบเดียวกัน...คือขีดเฉพาะ Check list...
แต่ไม่ได้ตรวจสภาพรถจริงๆ...

จากเหตุการณ์วันนั้น...ผู้เกี่ยวข้องถูกลงโทษกันถ้วนหน้า...
ผมในฐานะผู้บริหาร...ที่รับผิดชอบในวันนั้น...
เกือบถูกไล่ออก...
ดีแต่ว่า...กรรมเก่าที่ทำไว้ดี...
คือประวัติและผลงานของผมยอดเยี่ยม...มาตลอด...
เลยช่วยให้รอดไปได้่ครั้งหนึ่ง...
คนไทยทั้งหมด...ที่ทำงานที่นั่น...
เสียศักดิ์ศรี...อย่างรุนแรง...

พวกฝรั่งมองคนไทย...ด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม...
ว่าเป็นพวก...ไม่ได้เรื่อง...เฮงซวย...ไม่มีวินัย...
ทำผิดคนเดียว...
ถูกประนามกันทั่วประเทศ...

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา...
ผมให้ความสำคัญของเรื่องวินัย...เป็นอันดับหนึ่ง...

เห็นใครทำผิดกฏระเบียบ...ผิดวินัย...ผมเข้าไปเตือน...ทันที...
โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย...
ไม่ว่าความผิดที่ทำนั้น...มันจะเล็กน้อยแค่ไหน...
เพื่อยุติการทำผิด...ให้หยุดอยู่แค่ตรงนั้น...ไม่ขยายวงต่อ...
และได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง...ในการทำครั้งต่อไป...

แล้วผมก็นำบทเรียนที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิตนี้...
มาเป็นแบบอย่าง...ในการเลี้ยงลูก...
ไม่ว่าลูกจะทำผิดเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน...
ผมจะรีบเข้าไปเตือน...และกำชับว่า...
อย่าทำแบบนี้อีกเด็ดขาดนะลูก...
ทำให้ลูก...เป็นคนที่มีวินัยเข้มข้น...
อะไรไม่ดี...อะไรไม่ถูกต้อง...ไม่ทำ...
ผู้คนที่อยู่รอบข้าง...ไม่มีใครเดือดร้อน...
ชีวิตครอบครัวมีความสุขสมบูรณ์...

สมคิด ลวางกูร
Read more ...

ความคิดเห็นล่าสุด

Recent Comments Widget