สุดยอดทักษะและกลยุทธ์ 14 อย่างที่น่าสนใจของ”สตีป จ๊อบส์ (Steve Jobs)”

19 ธ.ค. 2557
โดย http://www.flagfrog.com/สุดยอดทักษะและกลยุทธ์-14/

1.อย่ามองปัจจุบัน

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนเชิดชู Apple เหนือกว่าบริษัท อื่นใด เป็นเพราะ Apple เป็นบริษัทที่เปลี่ยน แปลงและสร้างทุกอย่างใหม่หมด ในขณะที่บริษัททั่วๆไปทำ คือการปรับเปลี่ยนสิ่งเดิมๆที่มีอยู่แล้ว ให้ดีขึ้นเพียงเล้กน้อยเท่านั้น แต่ Apple สร้างความต้องการที่เราไม่เคยรุ้ตัวมาก่อนว่าเรามีอยู่ และทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องมีบ้าง ถ้าหากว่าเราอยากมีความสุข

Steve Jobs เป็นผู้ประกอบการที่เหนือกว่าผู้ประกอบการทั่วๆไป เพราะเขามองว่า ผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่มีใครสร้างขึ้น เป็นเพียงสิ่งที่สะท้อนถึงความดาษดื่น และการขาดไร้ซึ่งจินตนาการเท่านั้น Jobs มองเห็นความ เป็นไปได้ ในสิ่งที่คนอื่นเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ เขาสามารถจับเอาความไม่พอใจและความโหยหา ของคน มาเปลี่ยนให้เป็นสินค้าได้

2.ลูกค้ายอมจ่ายแพงถ้าคุ้มค่า

เป็นที่รู้กันดีว่า Jobs นั้นเป็นเมธีทางด้านสุนทรียศาสตร์ เขาชอบความงาม และความประณีตในทุกรายละเอียด ทั้งวัสดุและการออกแบบที่สามารถตอบสนองทุกความรู้สึกของผู้ใช้ Jobs ยังเป็นนักมนุษย์นิยมที่ชอบใส่ความมีชีวิตชีวาและความเป็นมนุษย์ ลงไปในสิ่งที่เขาสร้าง

การได้สุดยอดนักออกแบบอย่าง Jonathan Ive มาร่วมงานในปี 1997 ทำให้ทั้งสองคนได้ตระหนักในความจริงง่ายๆ ที่ว่า ต้องเริ่มต้นด้วยสิ่งที่เรารักแล้วจึงค่อยคิดเรื่องเทคโนโลยีทีหลัง ผลิตภัณฑ์ทุกตัวของ Apple เป็นมากกว่าแค่เครื่องจักร ทั้งๆที่ผลิตภัณฑ์ของ Apple ประกอบขึ้นด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงที่สลับซับซ้อน ทว่ากลับใช้งานง่าย ราวกับเป็นอุปกรณ์ในยุคอะนาล๊อก คติของ Jobs คือ อย่าถามลูกค้าว่าพวกเขาต้องการอะไร เพราะพวกเขาเองก็ไม่รู้ (ผมขอบคตินี้มาก)

3.ให้พนักงานของท่านได้พบปะพูดคุยกัน

ปรัชญาเบื้องหลังของความสำเร็จของ Apple คือการออกแบบสถานที่ทำงานของ Jobs คือการรวบรวมทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ตรงกลางแม้กระทั่งห้องน้ำ! Jobs เชื่อว่าการได้พบปะพูดคุยกันของพนักงานดีที่สุด ไอเดียร์ดีๆมักเกิดขึ้นในเวลา ที่พวกเขานั่งคุยกันในช่วงพักเบรก หรือบังเอิญเจอกันในห้องน้ำ

4.รู้จักทุกซอกทุกมุมของธุรกิจอย่างถ่องแท้

หลักการของ Jobs คือ

เคารพธรรมชาติ

ใส่ใจรายละเอยีด

ทำตัวให้มีค่า ไม่ก็ “ไสหัวไป”

อย่าหยุดทำทุกอย่างให้ดีขึ้น

อย่าอยู่บนหอคอยงาช้าง

อย่าเสียเวลากับหลักการสวยหรูบนกระดาษ

ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม

น้อยคือมาก

คลุกวงใน

พูกง่ายๆเลยก็คือผู้บริการต้องอย่าดีแต่สั่งต้องทำงานเป็นและพร้อมลุยกับลูกน้องได้ตลอดเวลา

5.เริ่มจากศูนย์

Jobs มีพรสววรค์ในการจินตนาการสร้างสิ่งใหม่ โดยไม่ต้องเริ่มจากสิ่ง ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เขาสร้างสิ่งต่างๆจากศุนย์ และผลก็คือ เขาทำให้วัตถุที่ไร้ชีวิตชีวากลายเป็นสิ่งที่เกือบจะมีชีวิต ตัวอย่างที่น่าทึ่งที่สุดก็คือ การที่ Jobs คิดเครื่อง iPod ขึ้นมา ในช่วงเวลาที่ Sony กำลังครองตลาดเครื่องเล่นเพลงด้วย Walkman อย่างชนิดที่เกือบจะไร้คู่แข่ง และยังมี CBS เป็นผู้คอยสร้าง เนื้อหาให้ การจะเอาชนะคู่แข่งแบบนี้ เกือบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่ Jobs ชนะเพราะเริ่มต้นด้วยความคิดว่า “เครื่องเล่นเพลงที่ควรจะเป็น” ควรจะเป็นอย่างไร แล้วจึงค่อยสร้างสิ่งอื่นๆ เติมเข้าไปในเครื่องเล่นเพลงของเขา

6.เอาอย่าง อย่าลอกเลียน

บางครั้งเราก็สามารถยืมไอเดียดีดีมาจากสิ่งรอบข้าง แต่ไม่ใช่ว่าจะเอามาหมดเลยทีเดียว ขอแค่ยืมความคิดแต่นำมาพัฒณาให้ดีกว่าเท่านั้นเอง

7.สำคัญที่สุดคือการออกแบบ

Jobs ให้ความสำคัญกับการออกแบบอย่างมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ทำให้คนอยากซื้อ การออกแบบเป็นส่วนหนึ่งของ Apple มาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม โลโก้รูปแอปเปิลสีรุ้งที่แหว่งด้วยรอยกัด คืองานออกแบบยุคแรกสุด Apple อาจเริ่มต้นด้วยการเป็นบริษัทคอมพิวเตอร์ ที่มีลูกค้าเป็นพวกคลั่งไคล้เทคโนโลยี แต่สิ่งที่ทำให้ Apple ประสบความสำเร็จ กลับเป็นการที่สามารถเปลี่ยนตัวเองให้เป็นเหมือนแฟชั่นได้ และคำว่า “คอมพิวเตอร์” ก็ได้หายไปจากชื่อบริษัท

8.ทำให้ผู้ฟังเคลิบเคลิ้ม

3เทคนิคที่ทำให้ Jobs เป็นนักเล่าเรื่องตัวฉกาจที่หาตัวจับยาก

อธิบายความเจ๋งของผลิตภัณฑ์ในประโยคเดียว เช่น “iPod เป็น 1,000 เพลงในกระเป๋าของคุณ”

อธิบายด้วยภาพ คงไม่มีใครมานั่งอ่านสไลด์ที่มีแต่ข้อความเพราะมันคงจะน่าเบื่อไม่น้อย ท่าเทียบกับการดูรูปและฟังไปด้วย จะทำให้สิ่งที่คุณกำลังพูดหรือบอก ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และทำให้ผู้ฟังจำเรื่องที่คุณพูดออกไปได้ดีมากขึ้นยิ่งด้วย

กฎไม่เกิน 3 Jobs บอกว่า iPad “บางกว่า เบากว่า และเร็วกว่า” ตามหลักจิตวิทยาแล้ว ความจำระยะสั้นจะดีขึ้น ถ้าหากได้รับข้อมูลที่ไม่เกิน 3 ส่วน

9.จากปาก Steve Jobs

“เป็นเรื่องยากมากที่จะออกแบบผลิตภัณฑ์โดยอาศัยแค่กลุ่มตัวอย่างเพราะคนจะไม่ค่อยรู้ว่า อะไรที่พวกเขาต้องการ จนกว่าคุณจะทำออกมาให้พวกเขาเห็น”

“(นวัตกรรมของ Apple) เกิดมาจากการปฏิเสธ 1,000 สิ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าเราไม่ได้เดินไปผิดทาง หรือพยายามมากเกินไป”

“การเป็นคนนวยที่สุดที่นอนอยู่ในสุสาน ไม่มีความหมายอะไรกับผม แต่ถ้าได้เข้านอน ด้วยความรู้สึกที่ว่า ได้ทำอะไรที่แสนวิเศษ นั่นจึงจะมีความหมาย เวลาที่คุณคิดสิ่งใหม่ๆ คุณมักจะทำผิดต้องรีบยอมรับความผิดนั้นโดยเร็ว และปรับปรุงแก้ไขในครั้งต่อไป”

10.ท้าทายความคาดหวังของคนอื่น

อย่ายอมรับความคาดหวังของคนอื่นที่มีต่อท่าน ที่คาดหวังให้ท่านต้องเป็นอย่างนั้น หรือ ทำอย่างนี้ อย่ายอมให้คนอื่นตัดสินคุณค่าของตัวท่าน

11.เป็นคู่แข่งของตัวเอง

ในข้อนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก นั่นก็คือ ขยันเข้าไว้อย่าขี้เกียจหล่ะ

12.ปิดแล้วเปิดใหม่

Jobs ปฏิวัติอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ ให้กลายเป็นอุตสาหรรมบันเทิงอิเล็กทรอนิกส์ และได้ค้นพบว่า คนส่วนใหญ่ชอบบริโภคเนื้อหามากกว่าจะเป็นผู้สร้างเนื้อหา ดังนั้นทั้ง iPad,iPhone และ iPod จึงถูกสร้างขึ้นอย่างดีที่สุดเพื่อส่งเสริมการบริโภคให้ง่ายที่สุด


13.ความลับ คือการโฆษณาที่ดีที่สุด

Jobs มักพูดเสมอก่อนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ก็คือ “ผมมีเซอไพรซ์” แค่นั้นก็เพียงพอที่จะเขย่าต่อมอยากรู้ของคนทั้งโลกแล้ว

14.จงเป็นคนหิวและโง่

อธิบายง่ายๆก็คือ หิวกระหายในความอยากรู้และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเสมอ และให้ทำตัวโง่เสมอเพราะถ้าคุณทำตัวฉลาดแล้วคุณจะไม่ได้ความรู้อะไรใหม่ๆเพิ่มเข้ามาเลย และ เรื่องสุดท้ายเกี่ยวกับความตาย ตอนที่เขาเป็นมะเร็งตับอ่อน Jobs บอกว่า

การคิดว่าตัวเองกำลังจะตาย เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดที่เขาเคยพบมาในชีวิต ที่ช่วยให้เขาตัดสินใจเรื่องยากที่สุดในชีวิตได้

หลักการของ จ๊อบส์
Read more ...

10 เรื่องแย่ๆ ในชีวิตที่คุณจะต้องเจอเข้าสักวัน

13 ธ.ค. 2557
โดย http://www.fhm.in.th/SECTION-FEATURES/TOP-10/READ-10-BAD-THINGS-YOU-FACE-SOMEDAY-XthingsFHM139/

ความเป็นจริงมันไม่สวยงามเหมือนในความคิด ทางเดินชีวิตก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเหมือนที่เราฝัน ยังคงมีปัญหาอีกมากมายที่เราต้องแก้ นี่คือ 10 เรื่องแย่ๆ ในชีวิตที่เราต้องเจอเข้าสักวัน

Date: 2014-12-13 13:15:09

Words : Watchara Wongsangar

Illustration : Suebchai J.

1. อกหัก
“ที่ใดมีรักที่นั้นมีทุกข์” วลีที่ทำให้สะกิดใจ ทว่าเหตุใดแล้วคนเรายังคงแสวงหาความรัก แม้ความรักจะทำให้เราต้องทุกข์ก็ตามที แต่อย่างน้อยมันก็ยังคงมีความสุขประสมอยู่ให้ชื่นใจ ซึ่งช่วงเวลาที่อกหักนี้เองจะทำให้ใครหลายคนต้องทุกข์ระทมเสียน้ำตา บางคนจะเป็นจะตาย ไม่เป็นอันทำอะไร และมันก็ไม่ง่ายเลยที่จะทำให้ตัวเองลบภาพของช่วงเวลานี้ออกไปจากใจ แต่ในที่สุดแล้วเวลาจะให้คำตอบดีๆ กับเราเสมอ เพราะอกหักดีกว่ารักใครไม่เป็น

2. เซ็กซ์เสื่อม
ถ้าพูดถึงเรื่องเซ็กซ์ มันคือเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ของผู้ชายทุกคน เพราะมันเป็นสิ่งที่แสดงถึงความเป็นชายชาตรีอย่างสมภาคภูมิ แต่สิ่งที่แน่นอนที่สุดในชีวิต ก็คือความไม่แน่นอน เรื่องเซ็กซ์เสื่อม นกเขาไม่ขัน และอีกเพียบ ซึ่งมันบั่นทอนขวัญกำลังใจของผู้ชายเราที่สุด เพราะถึงช่วงวัยหนึ่งเหตุการณ์นี้ก็จะต้องเกิดกับคุณเข้าสักวัน

แต่ก็มีอีกหลายคนที่ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อโชคชะตานี้ จึงถึงขนาดคิดสูตรยาโด๊ปมาเป็นตัวช่วยอย่าง จู๋กวางตุ๋น อุ้งตีนหมี ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันจะได้ผลจริงหรือเปล่า

3. โดนนินทาลับหลัง
สำหรับคนที่ชอบนินทาคนอื่นนี่นะ เมื่อไหร่ที่เจอกับตัวเองบ้างจะพูดไม่ออกบอกได้เลย สนุกกันจังเลยไปพูดลับหลังส่งเสียงคิกคักสนุกสนาน ถ้าเอาความจริงไปพูดก็ยังดีหน่อย เพราะความจริงก็คือความจริง แต่ถามหน่อยเถอะพอพูดถึงเรื่องการซุบซิบติฉินนินทาแบบนี้ยังไงก็ต้องมีพิเศษใส่ไข่ แต่งเพิ่มเติมสีให้มันคุยกันสนุกปากอยู่แล้ว เยอะๆ เข้ากลายเป็นเหมือนการใส่ร้ายให้คนอื่นเข้าใจเราผิดไปด้วยแบบนี้มันก็เข้าขั้นบัดซบกันเลยทีเดียว ถ้าเป็นสาวๆ ก็อีกแบบ ถ้าเป็นผู้ชายด้วยกันนี่รู้ถึงหูเมื่อไหร่งานนี้ต้องเคลียร์กันหน่อย เพราะที่ทำอยู่มันไม่แมนเลย ไม่มีใครหรอกที่ชอบโดนนินทาลับหลัง

4. มีอารมณ์ แต่ไม่มีที่ลง
เราทุกคนต่างรู้ว่า เรื่องความต้องการทางเพศมันไม่เข้าใครออกใคร และก็ไม่สามารถกำหนดเวลาได้ว่าจะมีอารมณ์ตอนไหน เพราะมันคิดจะต้องการขึ้นมามันก็มาแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งถ้าหากคนไหน ‘ขึ้น’ มาแล้วมีที่ลงก็ดีไป แต่ถ้าไม่มีนี่ถือเป็นเรื่องทีเดียวครั้นจะไปหาเศษหาเลยก็ต้องมีปัจจัยเรื่องเงินในกระเป๋ามาเกี่ยวข้อง ทางที่ดีก็คงจะต้องกลับไปใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านครั้งอดีต นั่นก็คือ ‘โลกสวยด้วยมือเรา’ ซึ่งก็ดูจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ไม่ต้องเสียตังค์ ไม่ต้องเสี่ยงเรื่องโรคภัยไข้เจ็บแถมยังได้ปลดปล่อยสำเร็จสมใจหมาย

5. โดนเอาเปรียบ
คนประเภทนี้มีอยู่ในทุกที่ ทุกสังคม ทุกชนชั้น ไม่ว่าจะตอนเรียน ตอนทำงาน หรือตอนใช้ชีวิตประจำวัน เป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ที่จะไม่ต้องเจอกับคนประเภทนี้ บางคนอาจจะทำไปโดยมีเหตุผลส่วนตัว บางคนอาจทำไปโดยไม่รู้ตัว บางคนก็ออกมาจากนิสัย ซึ่งเราไม่สามารถควบคุมได้ แต่สิ่งที่เราทำได้คือเราไม่เอาเปรียบคนอื่นก็พอ เพราะมันเป็นเรื่องของจิตสำนึกเฉพาะบุคคล ก็คิดซะว่าทำบุญไปก็แล้วกัน

6. ถูกหักหลัง
ความเชื่อใจ ความไว้ใจกันเป็นเรื่องที่ดี มันทำให้ความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นแฟนกัน หรือเป็นเพื่อนฝูงก็เถอะ แต่ชีวิตมันจะเป็นตลกร้ายกับเราเสมอ จะแกล้งให้เราเจอเรื่องนี้เข้ากับตัวสักวัน แต่มันจะสอนอะไรเรามากมายทีเดียวจากการที่ถูกหักหลังสักครั้งในชีวิตไม่ว่าจะโดนแฟนสวมเขา เพื่อนโกงตังค์ และอื่นๆ อีกมากมายที่มันเลวร้ายจนคุณคิดไม่ถึง แต่เมื่อผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนี้ไปคุณจะมีมุมมองในชีวิตเปลี่ยนไปแน่นอน

7. ไม่พอใจในตัวเอง
เรื่องนี้เป็นปัจจัยภายในตัวเรา เป็นเรื่องของทัศนคติ และเรื่องแย่ๆ นั้นเกิดจากมุมมองทางความคิดของเราเองล้วนๆ ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกหดหู่ ไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น ก็คงต้องพยายามดิ้นรนเพื่อให้ได้มา เพื่อให้มี เหมือนคนอื่นๆ และเมื่อคุณเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ความทุกข์ก็จะบังเกิด ถึงแม้การเป็นที่ยอมรับอาจเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่การยอมรับในความตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญกว่าเพราะชีวิตมันสั้นเกินกว่าจะเสแสร้งเป็นคนอื่น

8. งานที่ทำมีปัญหา
แค่พูดว่ามีปัญหาก็แย่พออยู่แล้ว แต่ไม่รู้ทำไมไอ้เจ้าปัญหานี้มันชอบมาพร้อมๆ กันเป็นประจำ เรื่องนี้ยังไม่ทันได้แก้ เรื่องนั้นก็เข้ามาอีก ประเดประดังเข้ามาพร้อมกันทุกด้านจนมึนไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ทำเอาคุณท้อแท้ และเบื่อหน่ายกับชีวิตไปเลย แต่เรื่องนี้จะผ่านพ้นไปได้ด้วยสติ คนเราอาจไม่เก่งในทุกเรื่อง แต่เราก็ยังมีเพื่อน มีพ่อแม่คอยให้กำลังใจ และคำปรึกษาดีๆ เสมอ คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลก โลกมีไว้ยืนไม่ได้เอาไว้แบก คิดซะว่ามันเป็นบททดสอบ เมื่อไหร่ที่คุณผ่านช่วงที่แย่ที่สุดไปได้ อะไรก็เป็นเรื่องง่ายๆ แน่นอน

9. ตกงาน
สำหรับคนที่หาเช้ากินค่ำ มนุษย์เงินเดือน และคนที่เขาใช้เงินจ้างให้มาทำงาน เรื่องนี้เป็นอะไรที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตมากทีเดียว ถ้าตัวคนเดียวก็ยังพอจะดิ้นรนกันไป แต่ถ้าหากมีคนข้างหลังรออยู่นี่สิบรรลัยเลยทีนี้ ใครที่ทางบ้านพอมีทรัพย์ก็จะผ่านช่วงเวลานี้ได้ไม่ยาก แต่ถ้าหากไม่ใช่ก็คงต้องขยัน และกัดฟันสู้กันไป อย่าท้อแท้ เชื่อว่าทุกคนก็เคยล้ม เราจะล้มบ้างสักครั้งก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้ลุกขึ้นสู้ต่อไป เพราะโอกาสมีให้คนที่พร้อมเสมอ ยังมีคนที่ลำบากกว่าเราเยอะ เพราะถ้าหากไม่เคยลำบากมาก่อน แล้วจะไปเข้าใจคำว่าสบายได้ยังไงจริงมั้ย? ชีวิตก็อย่างนี้แหละ

10. สูญเสียคนที่รัก
ไม่มีใครหรอกที่ชอบการจากลา แต่มีพบก็ต้องมีจาก มันเป็นความจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ แม้ว่าเรานั้นจะพยายามสักแค่ไหนก็ตาม ความตายก็จะหาเราเจอเข้าสักวัน รวมถึงคนอันเป็นที่รักของเราด้วย แม้ว่าความจริงมันอาจจะดูโหดร้ายเกินไปนิด แต่ชีวิตมันก็อย่างนี้เราต้องทำใจ และยิ้มรับกับมันให้ได้ ซึ่งอย่างน้อยก็มีสิ่งที่เราสามารถทำได้ คือการเก็บเกี่ยวช่วงเวลากับคนที่เรารักให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็เท่านั้น
Read more ...

อดีตนักอเมริกันฟุตบอล ทิ้งเงิน 800ล้านบาท มาทำไร่

10 ธ.ค. 2557




โดย http://www.flagfrog.com/brown-dumb-800-milion-for-one-reason/ เมื่อ 21 พ.ย.2557

เจสัน บราวน์ (Jason Brown) ชายหนุ่มนักอเมริกันฟุตบอล ตำแหน่ง เซ็นเตอร์แบ๊ค อายุ 29 ปี ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นตำแหน่งเซ็นเตอร์ที่หนักแน่นและมีฝีมือมากที่สุดในวงการ NFL ซึ่งเขาสามารถทำเงินได้ทั้งหมดประมาณ $25 ล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 800,000,000 ล้านบาทไทยนั่นเอง

แต่จู่ๆ เจสัน ก็บอกกับคนทั้งโลกว่า “ผมไม่ต้องการชีวิตแบบนี้อีกแล้ว” จากนั้นอาเฮียเจสัน แกก็เริ่มเลยครับ โดยซื้อที่ดินประมาณ 1,000 เอเคอร์ หรือประมาณ 2530 ไร่ ซึ่งถือว่ากว้างสุดลูกหูลูกตามาก โดยเค้าให้เหตุผลว่า “ผมจะปลูกและส่งอาหารเหล่านี้ไปให้เพื่อนมนุษย์ที่หิวโหย ” (หล่อค่อดๆ)

แต่ผู้จัดการของ เจสัน ก็ตอบกลับมาว่า “ความคิดนี้มันงี่เง่าสิ้นดี นี่มันคือความคิดที่ผิด” แต่เจสันก็ตอบกลับไปโดยประโยคที่หล่อกว่าเดิมว่า “ไม่ มันไม่งี่เง่า นี่คือสิ่งที่ถูกต้อง และนี่คือสิ่งที่ผมอยากจะทำ!” ซึ่งปัจจุบันนี้ไร่ที่เจสัน ปลูกอยู่นั้นได้ส่งพืชผลทางเกษตรออกไปแล้วประมาณ 56,000 ปอนด์ ซึ่งถือว่ามหาศาลมาก โดยมีทั้ง มันฝรั่ง แตงกวา และผักผลไม้อีกหลายๆอย่าง

โดยตอนแรกเจสันนั้น ไม่มีความรู้เรื่องการปลูกหรือการทำการเกษตรใดๆเลย เขาจึงต้องเริ่มศึกษาจาก youtube อย่างจริงจัง และ ถึงกับต้องเดินทางไปมหาวิทยาลัย North Carolina เพื่อศึกษาอย่างจริงจัง

นอกจากนี้ เจสัน ชาวไร่ ของเรายังเปิดเภยด้วยรอยยิ้มว่า “ทุกครั้งที่ผมเห็นสิ่งที่ผมปลูกขึ้นมาจากพื้นดิน มันคือสิ่งที่งดงามที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา”
Read more ...

การช่วยเหลือผู้อื่นสร้างความสุขให้กับมนุษย์ได้มากที่สุด

4 ธ.ค. 2557
เมื่อ 4 ธ.ค.2557
- ได้ทำงานช่วยเหลือผู้อื่น โดยทำอย่างจดจ่อ มีสมาธิ จะสามารถสร้างความสุขระยะยาวให้กับตัวคนทำงานได้มากที่สุด
- การจดจ่อมีสมาธิเป็นผู้ประโยชน์ต่อตนเอง ทำให้มีความสุข
- การต่อสู้ทางการเมือง ไม่มีอะไรลำบากเกินไป
เพราะคนไทยจำนวนมาก ตายฟรี ๆ เพราะการเรียกร้องประชาธิปไตยให้ประเทศมาแล้ว
ดูไว้เป็นบทเรียน และระลึกถึงความเสียสละของพวกเขาเหล่านั้น
Read more ...

ความสำเร็จของการศึกษาคือการทำให้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น

2 ธ.ค. 2557
เมื่อ 3 ธ.ค.2557

ความสำเร็จของการศึกษาคือการทำให้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น
Read more ...

ความคิดเห็นล่าสุด

Recent Comments Widget