จุดเสื่อมของวงการฟุตบอลอาเซียน ประเทศเพื่อนบ้านของไทย

5 ก.ย. 2553
โดยสยามกีฬา เมื่อ 31 ส.ค.2553

ผู้เขียน - ปูเป้

ความเฟื่องฟูของฟุตบอลไทยวันนี้...เป็นหนึ่งในความฝันที่ผมอยากเห็นมาตลอดชีวิตการทำงานสายข่าวกีฬาเป็นเวลากว่า 10 ปี

ผมเคยท่องยุทธจักรอาเซียน ตะลุยไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ เพื่อดูการพัฒนาการของฟุตบอลลีกอาชีพ ผมมักจะมุ่งเน้นไปในลีกของเพื่อนบ้านอย่าง 

อินโดนีเซีย, 
สิงคโปร์, 
เวียดนาม, 
มาเลเซีย ฯลฯ 

พวกนี้มากกว่า ที่จะมองชาติมหาอำนาจเอเชียอย่าง 

เกาหลีใต้, 
ญี่ปุ่น, 
จีน หรือ
ตะวันออกกลาง 

เพราะผมว่าพวกนั้นใหญ่เกินไป โตเกินกว่าที่เราจะฝันถึงได้

ช่วงเวลาที่เอสลีก สิงคโปร์ เจริญเติบโตปี 2001 ผมประจำการอยู่ที่นั่น 1 ปีเต็มๆ เห็นแนวทางการสร้างฟุตบอลอาชีพของพวกเขา ซึ่งเป็นชาติแรกในอาเซียนที่กล้าจ้างนักเตะไทยไปเล่นในเรตเงินเดือนเดือนละหลายหมื่นจนถึงหลักแสน นักเตะไทยระดับเกรดเอ ทีมชาติชุดใหญ่แห่ไปขุดทองที่นั่นร่วม 20 คน แต่ก็เห็นปัญหา เห็นจุดอ่อน มากมายหลายด้านเช่นเดียวกัน

เวียดนามผมก็ใช้เวลาไปเดินท่อมๆ ขึ้นเหนือลงใต้ สำรวจการพัฒนาการของวีลีก ตั้งแต่ ฮอง อันห์ ยาลาย, บินห์ ดินห์, ดานัง, ฮานอย, โฮจิมินห์, ฮอยอัน ฯลฯ ชื่นชมกับความคลั่งไคล้ลูกหนังของพวกเขา แต่ก็รับรู้ว่าปัญหาใหญ่ๆ ของวงการฟุตบอลเวียดนามคืออะไร

นอกนั้นมาเลเซียที่บูมฟุตบอลอาชีพก่อนใครเพื่อนตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว ในยุคของ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์, อรรถพล ปุษปาคม ฯลฯ ไปค้าแข้งอยู่ผมก็มีโอกาสแวะเวียนไปบ่อยๆเช่นเดียวกับอินโดนีเซียที่ผู้คนคลั่งไคล้ฟุตบอลลีกมาก

ยอมรับครับว่า ผมแอบอิจฉาชาติเหล่านี้มาตลอดที่ฟุตบอลเขาบูมมาก คนดู รัฐบาล ให้ความสำคัญกับฟุตบอลลีกสุดๆ ผมไม่คิดว่าฟุตบอลไทยจะก้าวข้ามพวกเขาได้เพราะในอดีตฟุตบอลไทย คนดูน้อยกว่าผู้เล่นในสนามซะอีก

วันนี้ฟุตบอลไทยมาไกลเหลือเกิน เรากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างแท้จริง ทั้งยอดผู้ชม, การบริหารจัดการ คุณภาพ มาตรฐาน ทิ้งทุกลีกในอาเซียนอย่างเทียบกันไม่ติด
แต่ความสำเร็จของฟุตบอลไทยวันนี้ ยังนับไม่ได้ว่ายั่งยืนอย่างแท้จริง...หากเรามองย้อนกลับไปยังลีกเพื่อนบ้านที่เคยเดินมาถึงจุดที่ไทยยืนอยู่ในปัจจุบันนี้ แต่ก็ยังต้องเผชิญกับความตกต่ำอย่างที่เห็น

อะไร?คือปัจจัยเหล่านั้น ที่ทำให้ลีกหลายๆ ชาติในอาเซียน ต้องดิ่งเหว!! 

เริ่มจาก

มาเลเซีย 
ที่เริ่มบูมเอ็มลีกก่อนใครเพื่อน แรกๆก็ได้รับความนิยมจนดึงนักเตะไทยระดับบิ๊กเนมในยุค 20 ปีที่แล้วไปร่วมทีมเป็นว่าเล่น แต่คนมาเลเซียชอบเล่นการพนันไม่ต่างจากคนไทย เซียนบอลใช้ทางลัดด้วยการจ้างนักเตะล้มบอล ก่อนที่รัฐบาลมาเลเซียจะเอาจริงตามสืบและลากเข้าซังเตได้นับร้อยคน

จากวันนั้น แฟนบอลมาเลเซียก็ไม่ไว้วางใจลีกของตัวเองอีกเลย คนดูเข้าไปชมเกมน้อยลงเรื่อยๆ สุดท้ายวันนี้ลีกมาเลเซียมีแฟนบอลนัดละไม่กี่ร้อยคน รอวันเอวังเท่านั้นเอง

สิงคโปร์
วางโครงสร้างในเรื่องฟุตบอลอาชีพอย่างดี ทั้งเงินอุดหนุนจากรัฐบาล การตั้งร้านรับพนันถูกกฎหมายรองรับ ฯลฯ แต่สุดท้ายคนสิงคโปร์เกาะเล็กๆ ที่สนใจกีฬาน้อยกว่า ความอยู่รอดของชีวิต ก็เริ่มเบื่อฟุตบอลประกอบกับ นักเตะลอดช่องไม่กลัวกฎหมายมีการรับเงินล็อกสกอร์ ถล่มโต๊ะสิงคโปร์พูลเข้าให้อีก วันนี้ฟุตบอลเอสลีก มีคนดูแค่หยิบมือเดียว

เวียดนาม 
ธรรมชาติของผู้คน ของวงการฟุตบอล คล้ายๆกับคนไทย ต้องผจญกับมารลูกหนังทุกรูปแบบ ทั้งล้มบอล ความรุนแรงในสนาม นักเตะไล่กระทืบผู้ตัดสินบ้าง ที่รุนแรงที่สุดก็คือแฟนบอลยกพลตีกัน เผาสนามเมื่อปี 2007 ทำให้ความศรัทธาของแฟนบอลถดถอย

ลองไปดูชาติใหญ่ๆอย่าง

จีน
กันบ้าง ไชน่า ลีกของพวกเขาน่าจะเติบโตและบูมสุดขีด หากดูจากจำนวนประชากร การเอาจริงเอาจัง แต่สุดท้ายนักเตะจีนเล่นไปล้มบอลไป แถมแจ็กพอตแตกผู้ตัดสินถูกจ้างให้เป่าเข้าข้าง โดนตำรวจซิวเข้าห้องกรงไปอีก ใหญ่ขนาดพญามังกร ยังเอาฟุตบอลลีกไม่รอด

นี่คืออุทาหรณ์ บทเรียน สำหรับฟุตบอลลีกเมืองไทย...ฟุตบอลบ้านเรา กำลังเดินมาถูกทาง แฟนๆนิยมชมชอบศรัทธากำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราจะเลือกอะไร? ระหว่างกองเชียร์ไล่กระทืบกัน...นักเตะต่อยกันในสนาม...จ้างผู้ตัดสินเป่าเข้าข้าง...หรือจ้างล้มบอล

ปัจจัยเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นต้นเหตุแห่งความ "หายนะ" ของวงการฟุตบอลไทยทั้งสิ้น ช่วยๆกันเลือกครับ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของฟุตบอลบ้านเรา!!

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ10 ธันวาคม 2553 เวลา 19:24

    คุณไม่รู้หรอกมันทำไห้คนที่รักชาติเสียใจขนาดไหน
    ผมว่าวิธีแก้ไม่ยากอะไร
    เราแค่มีแก็งค์คอยจัดการ
    พวกคอรัปชั่นเหมือนญี่ปุ่น
    รับรองพวกคิดล้มบอลขยาดขี้แตก
    ตกรอบแรกคราวนี้
    โทษคราวนี้ต้องประหารเจ็ดชั่วโคตร
    ตกนรกหมกไหม้ดุจขายชาติ
    ทั้งนักบอลและพวกกรรมการทุกคน

    ตอบลบ

ความคิดเห็นล่าสุด

Recent Comments Widget